อุปกรณ์ปฐมพยาบาล

ชุดปฐมพยาบาล
ถือเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่นักท่องเที่ยวควรติด ตัวไว้ โดยเฉพาะหากเดินทางเป็นครอบครัวใหญ่ที่มีเด็กเล็ก ๆ วัยกำลังซนและเสี่ยงต่อการบาดเจ็บร่วมเดินทางไปด้วย หัวใจสำคัญของชุดปฐมพยาบาลคือ การล้างแผลร่วมกับการใช้ยาฆ่าเชื้อ (Antiseptic) ทำความสะอาดผิวหนัง-อันเป็นปราการป้องกันเชื้อโรค-ที่บาดเจ็บให้สะอาดที่สุด เพื่อป้องกันการติดเชื้อแทรกซ้อน
เนื่องจากเป็นยาที่ ผู้ใหญ่ทุกคนที่เคยผ่านการเป็นเด็กรู้จักดี และใช้เฉพาะภายนอก คนทั่วไปจึงใช้ได้อย่างปลอดภัยและไม่ค่อยเกิดผลข้างเคียงร้ายแรง
ข้อควรรู้
- ก่อนใช้ยาฆ่าเชื้อ ให้ใช้น้ำสะอาดหรือน้ำเกลือชะล้างฝุ่นละอองและสิ่งแปลกปลอมออกจากบาดแผลให้มากที่สุดก่อน
- เบตาดีน (Betadine) แสบแผลและมีพิษต่อเนื้อเยื่อปกติน้อยกว่าแอลกอฮอลล์ (Alcohol)
- หลังล้างแผลและใช้ยาฆ่าเชื้อเช็ดแผลแล้ว ควรปิดแผลด้วยความระมัดระวังให้มีสิ่งสกปรกปนเปื้อนบาดแผลน้อยที่สุด วัสดุที่ปิดแปลควรปราศจากเชื้อ
- แผลบางอย่าง เช่น มีดบาด ไม้เสีบลูกชิ้นตำ หรือโดนผึ้งต่อย ฯลฯ แม้ไม่ลึกมากและบาดแผลดูสะอาดดี อาจจำเป็นจะต้องให้วัคซีน
ชุดปฐมพยาบาล คือเครื่องมือสำหรับผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ ต้องประกอบไปด้วยสามสิ่งคือ อุปกรณ์ทำแผล-ยา แผ่นความรู้แนวทางการปฐมพยาบาล และหมายเลขโทรศัพท์ฉุกเฉิน อย่างน้อยในชุดปฐมพยาบาลต้องมีทั้งสามสิ่งนี้ไว้ สำหรับการบาดเจ็บที่พบได้บ่อย เช่น การบาดเจ็บจากการพลัดตก การชนกระแทก บาดแผลตัด-ฉีก-แทงทะลุจากวัสดุผลิตภัณฑ์ต่างๆ การบาดเจ็บจากความร้อน ไฟฟ้า สัตว์กัด และสารพิษ เป็นต้น

อุปกรณ์ ทำแผลเป็นหนึ่งในสามองค์ประกอบหลักของกล่องปฐมพยาบาล ประกอบด้วยเครื่องมือหลายอย่างที่จะใช้ล้างแผล ห้ามเลือด ปิดแผลป้องกันเชื้อโรค หยุดการเคลื่อนไหวของกระดูกและข้อ เครื่องมือเหล่านี้ควรจัดวางเป็นหมวดหมู่ หยิบหาง่าย และมีการตรวจเช็กอยู่สม่ำเสมอเพื่อหาอุปกรณ์ทดแทนเมื่อใช้ไป อุปกรณ์จำเป็นในชุดการ
อุปกรณ์ปฐมพยาบาลเบื้องต้นประกอบด้วย
1. ถุงมือ 1 คู่ สำหรับผู้ช่วยเหลือ เพื่อป้องกันมิให้ผู้ช่วยเหลือสัมผัสถูกเลือด อาเจียน สารคัดหลั่งต่างๆ (อุจจาระ ปัสสาวะ เหงื่อไคล)หรือสารเคมีต่างๆ ที่เกิดขึ้นบนตัวผู้บาดเจ็บ เพราะหลักการของผู้ช่วยเหลือที่ดีคือตนเองต้องปลอดภัยไว้ก่อน
2. ยาล้างแผล เช่น เบต้าดีน แอลกอฮอล์ หากล้างแผลด้วยน้ำสะอาด เช่น น้ำประปา น้ำดื่มสุกที่ทิ้งไว้ให้เย็น หรือน้ำดื่มสะอาดแล้วไม่มีความจำเป็นต้องใช้น้ำยาฆ่าเชื้อเหล่านี้ชะล้าง หรือเช็ดถูในบริเวณแผล เนื่องจากน้ำยาเหล่านี้
จะทำลายเนื้อเยื่อได้ แต่สามารถใช้ทำความสะอาดรอบๆ แผลได้ โดยใช้น้ำยาเบต้าดีนเช็ดรอบแผลก่อนจะเช็ดออกด้วยแอลกอฮอล์เพื่อลดจำนวน แบคทีเรียที่อยู่รอบๆ แผล
3. ผ้าทำแผล (ผ้าก๊อซ) ขนาดเล็ก 3 แผ่น ขนาดกลาง 3 แผ่น ขนาดใหญ่ 3 แผ่น ต้องเป็นแบบเก็บไว้ในซองพลาสติก ผ้าก๊อซใช้สำหรับปิดแผลหลังจากล้างทำความสะอาดแล้ว เพื่อป้องกันเชื้อโรค ประโยชน์อีกอย่างหนึ่งคือใช้กดบาดแผลที่มีเลือดออกเพื่อห้ามเลือด ผู้ช่วยทำแผลควรล้างมือให้สะอาด เปิดซองห่อผ้าก๊อซ หยิบโดยปากคีบ หรือนิ้วมือ (ที่ล้างแล้ว) โดยสัมผัสเฉพาะส่วนริมๆ เท่านั้น ใช้ผ้าก๊อซให้เหมาะสมกับขนาดของแผล หากมีเลือดออกให้ปิดทับหลายแผ่นได้ ยึดผ้าก๊อซกับผิวหนังโดยใช้เทปปิด 2-3 แถบ อาจใช้ผ้ายืดพันทับ(คอนฟอร์ม) แต่ต้องไม่แน่นจนเกินไป
4. พลาสเตอร์เทปปิดแผลขนาดต่างๆ ใช้สำหรับปิดแผลหลังจากล้างทำความสะอาดแล้ว
5. กรรไกร ใช้ตัดผ้าก็อซหรือตัดผ้าหรือขากางเกงเช่น เกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน
6. เทปติดแผล
7. ผ้าปิดตา ใช้สำหรับการบาดเจ็บที่นัยน์ตา เช่น กระจกตาถูกบาด ฝุ่นละอองเข้าตา เป็นต้น
8. เข็มกลัด ใช้ติดผ้าสามเหลี่ยม ผ้าคล้องคอ ผ้ายืด
9. สำลี ไม้พันสำลี ใช้สำหรับทายา ล้างแผลรอบๆ ซับเลือดในแผลที่เป็นรูลึก
10. ผ้ายืด(อีลาสติกแบนเอด) ใช้สำหรับพันเมื่อเกิดการบาดเจ็บกล้ามเนื้อ ข้อ เพื่อลดการบวม ลดการเคลื่อนไหว หรือใช้พันยึดกับอุปกรณ์อื่นๆ เพื่อดามกระดูก ผ้ายืดยังสามารถนำมาพันทับผ้าก๊อซหรือพลาสเตอร์ติดแผลเพื่อห้ามเลือด แต่ห้ามพันแน่นจนเกินไปเพราะทำให้อวัยวะส่วนปลายเกิดการบวมและขาดเลือดมา เลี้ยงได้
11. ผ้าสามเหลี่ยมคล้องแขน
12. สมุดจดบันทึก เพื่อบันทึกอาการ ตำแหน่งที่บาดเจ็บ การรักษาที่ให้ไป เพื่อส่งต่อให้ผู้ดูแลรักษาต่อไป
13. ถุงพลาสติก 1 ใบ สำหรับใส่เศษขยะ เช่น ผ้าเปื้อนเลือด เป็นต้น
14. ยาฉุกเฉินสำหรับรับประทาน ยาที่ใช้รับประทาน อยู่ภายในกล่องปฐมพยาบาล โดยกล่องบรรจุยานี้ต้องปิดมิดชิด ไม่เปิดได้โดยง่าย มีข้อความระบุข้างกล่องชัดเจนว่า เป็นยาสำหรับรับประทาน ควรมียาเฉพาะที่จำเป็นเท่านั้น คือ
1. ยาลดไข้แก้ปวดสำหรับบาดแผลที่มีอาการปวด
2. ผงเกลือแร่สำหรับการบาดเจ็บที่มีการเสียเลือดมาก หรือบาดแผลพุพองจากความร้อนที่มีบริเวณกว้าง หรือผู้ที่มีอาการอาเจียนและท้องเสีย
3. ยากระตุ้นการอาเจียนชื่อ ไซรัป ไอพิแคค อาจมีไว้ด้วยก็ได้ สำหรับผู้ที่กินสารพิษ แต่การใช้ต้องปรึกษา
ศูนย์พิษวิทยาก่อน เพราะมีสารพิษบางตัวมีข้อห้ามไม่ให้กระตุ้นการอาเจียน เช่น น้ำยาล้างพื้นที่มีฤทธิ์กัด รุนแรง เป็นต้นป้องกันบาดทะยัก ดังนั้นควรพาผู้ป่วยไปพบแพทย์



ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น